Pages

Monday, April 30, 2007

ตอนที่ 8 การเดินทางปีีที่ 2-3

ต่อเลยนะ...
คืนสุดท้ายที่เราถูกชาวบ้านเรียกให้ไปนอนกับพ่อหลวง หลังจากที่พวกเขากลับไป
เราก็คุยกันในเต๊นท์ว่า เริ่มไม่สนุกแระ เริ่มมีกังวล ก็เลยตกลงว่างั้นเราถอยกลับไปที่ขุนยวม โดยโบกรถ เดินคงไม่ไหว เดิน 7 วันเชียวนะ โบกรถน่ะ ครึ่งชั่วโมงถึงขุนยวม
ิแล้วนั่งรถแดงไปเชียงใหม่ แล้วต่อรถทัวร์ไปกรุงเทพ แล้วต่อรถที่สายใต้ไปชุมพร แล้วไปที่ท่าเรือไปเกาะเต่า ขึ้นเรือ ห้าทุ่มมั้ง ไปถึง ตี 4 หรือ 5
เรามาถึงก็เดินหาที่พัก แต่ตอนนั้นค่าที่พักคืนละ 300 บาทของเราก็แพงแล้วอ้า
เพราะเราจะเที่ยวประมาณ 10 วัน เราก็เลยเดินเข้าไปในหมู่บ้านของชาวบ้าน มีชาวบ้านใจดีให้เรา
กางเต๊นท์และเราก็เลยขอน้ำบาดาลอาบน้ำ เราอาบแบบประหยัด ๆ สุด ๆ 5 ขัน เอาแค่หายเค็มพอ เพราะอาบน้ำในทะเลแล้ว

ส่วนห้องน้ำ เราก็อาศัยใต้ต้นมะพร้าวต้นเดียวกัน ใช้มันกันทั้ง 2 คนเลย มันคงเปรมหรือไม่ก็ระอาของของเราเป็นเวลา 10 วัน
ฉันจำเป็นต้องใช้หลุมเดิม ขุดแล้วก็กลบด้วย เพราะมันเป็นพุ่มสวรรค์พุ่มเดียวที่ปลอดภัย ก็ต้องทนดมของตัวเอง และระวังขุดเจอของเก่าของใครก็ไม่รู้อีกต่างหาก
็โครตเสียวมะพร้าวหล่นใส่หัวเลย
อึไปมองฟ้าไป ขออย่าให้มันเกิดขึ้นกับฉันเล้ยยยย

และแล้ว...
เช้าวันหนึ่ง ไม่รู้่ใครเอาควายมีเขาใหญ่มากกก มาปล่อยกินหญ้าแถวหลังบ้าน
ไอ้เราก็ปวดหนักด้วยอ้า ต้องปล่อยของที่ใต้ต้นมะพร้าวต้นนั้น เรา็ต้องมองมันตลอด มันไม่ไว้ใจเรา เราก็ไม่ไว้ใจมัน แล้วมันก็ทำท่าจะเดินมาหาฉัน
จังหวะที่กะลังกลัวควาย มะพร้าวมันก็หล่นลงมา อีกแค่ 2 นิ้ว หวิดหวิวมากเกือบหัวโน
รีบ ๆ จัดการธุระให้เสร็จโดยด่วน

ใน 10 วันในเกาะเต่า เราใช้ขาเดิน ๆ ไปทุกที่ ในหนึ่งวันเราจะออกเดินทางไปตามหาดต่าง ๆ วันละหาด
อากาศเดือนมีนาคม ร้อนดี เล่นน้ำเลยสนุก ไม่หนาว ร้อนก็ลงน้ำ ขึ้นมาก็วาดรูป นอนอ่านหนังสือ

เล่นจนบ่ายก็เดินกลับก่อนเย็น
ไม่ได้เที่ยวผับไหนเลย มัวแต่ประหยัดกะตัง
เราพบว่าอาหารตามร้านชายหาดแพงจริง ๆ ขนาดแค่เป็นเพิง ๆ ที่อยู่ริมทะเล
ผัดไทยหรือข้าวผัดผักไม่มีเนื้อใด ๆ จานละ 60 บาท

เราเลยต้องเดินหาตลาด และหาร้านที่เป็นเพิงจริง ๆ ก็พอหาได้
ข้าวราดตามสั่งจานละ 35 บาท ยังโอนะ

เราไปที่ตลาดซื้อปลามา 1 ตัว ตัวใหญ่มาก 75 บาท ซื้อขนมปังชิ้นละ 8 บาทบ้าง ก็กลับมาหุงข้าว กินมาม่าบ้าง กินที่ตลาดบ้าง
แต่ก็สนุก ไปหาดไหนก็เล่นน้ำ วาดรูป หิวก็ชงกาแฟกินเองกับขนมปังใส่ทูน่า แต่ต้องแอบ ๆ ทำ เพราะเจ้าของหาดแต่ละที่มักมีป้ายเขียนไว้ว่า ห้ามนำอาหารข้างนอกเข้ามาทาน เราก็ต้องสั่งอะไรของเขามากินบ้าง แต่เขาก็คงรู้ว่า เราเป็นพวกประหยัดมาก ๆ

เป็นประสบการณ์เที่ยวทะเลที่นานที่สุดตั้งแ่ต่เกิดมา
มันช้า ๆ ไม่รีบดี ได้เล่นทะเลสะใจ ว่ายน้ำ ดำดูปะการัง มันอลังมาก
ตื่นเต้นด้วย กลัวด้วย
อยากไปอีก แต่ทุกอย่างคงแพงขึ้นไปอีก

ตอนนี้ก็อยากไปทะเลอีก แต่เหมือนชีพจรการเดินทางของเราหยุดเต้นไปประมาณ 3 ปีแล้ว
อยากไปทะเล แล้วก็อยากอยู่บ้านด้วย
อยู่บ้านก็มีอะไรรอให้ทำเต็มเลย
จัดบ้าน ทำสวน ทำงานร้าน คิดของขาย
เพื่อน ๆ ที่ปายก็สนุกทุกวันอยู่แล้ว
ขนาดเพื่อน ๆ ไปเที่ยวกันหมด เรายังอยู่อย่าง happy มาก ๆ
ไม่เหงา เพราะเรามีอะไรที่สนุกรอทำอีกเยอะแยะ

มีแต่คนมาลุ้นว่า เมื่อไหร่ เราทั้งคู่จะไปเที่ยวสักที
เราจะบอกยังไงดีว่า เรามีความสุขอยู่แล้ว ความอยากไปเที่ยวมันเลยน้อยลง
มันเหมือน ทุกวันนี้อยู่ปาย ก็เหมือนเที่ยวทุกวัน อากาศดี วิวภูเขา ทุ่งนาเขียว ๆ
มันสบายมาก ๆ แล้วอ้า



No comments: