เล่าต่อนะจั๊ม
ช่วงที่เราเดิน 7 วัน เราได้วาดรูปด้วย เป็นสีน้ำ
ก็อาศัยดู form จาก landscape และดูสี แล้ววาดออกมาเป็น abstract
มันเป็นช่วงการฝึกหัดการวาดรูป ฝึกการคิดให้เป็นระบบ
เราคิดอะไรอยู่ตอนวาด หรือเราจะวาดอะไร วาดไปเพื่ออะไร
ในตอนนั้นคิดว่า อยากเดินทางไป และฝึกวาดไป
ไปหาแรงบันดาลใจเอาข้างหน้าได้ฝึกรู้จักสีต่าง ๆ
สีเหลืองมาเจอกับน้ำ เจอกันสีน้ำเงิน เจอกับส้ม เจอกับแดง
หรือในภาพหนึ่งไม่ต้องมีสีเยอะ มีแ่ค่ 2 สีก็พอ แต่มีหลายเฉด อาศัยน้ำน้อย น้ำเยอะ
อยากเก็บมันไว้เป็นที่ระลึกว่า ครั้งหนึ่งเราเคยเดิน เดิน เดิน เป็นโล ๆ กางเต็นท์
ก่ิอกองไฟ ทำกับข้าว
การเดินในครั้งนั้น ถึงแม้เราไม่คิดจะประหยัด มันก็ต้องประหยัดหล่ะ
เพราะไม่รู้จะเอาเงินไปซื้ออะไร ให้ซื้อที่นะเร๋อ ไม่ได้อยากอยู่สักหน่อย แล้วก็ไม่มีตังค์หรอกตอนนั้น ไม่งั้นจะเดินเที่ยวเร๋อจ๊ะ
ประมาณวันที่ 3 ของการเดิน อยู่ในหมู่บ้านกระเหรี่ยง ที่มีบ้านเป็นเพิง ๆ ประมาณ 2 - 3 หลังอยู่ริมถนน
มีร้านหนึ่งขายพวกผัก ปลากระป๋อง มาม่า
เรารู้สึกอยากกินข้าวกับผักบ้าง ผักอะไรก็ได้ เพราะเรากิน มาม่า ปลากระป๋องมาหลายมื้อแล้ว
ในร้านเพิงนั้นมี ผักชีอยู่อย่างเดียว เราก็เลยถามเขาว่ามีผักอย่างอื่นบ้างมั๊ย อะไรก็ได้
เขาต้องเข้าไปหลังบ้าน ไปหยิบ พักทองที่แก่ได้ที่ ผิวเป็นสีน้ำตาลทั้งลูก เขาบอกว่า 5 บาท
มื้อแรกอร่อยมากเลย ฉันทำพักทองผัดไข่ใส่กระเทียมด้วย และมีมาม่าอีกหนึ่งห่อ
มื้อเช้า ฉันต้มฟักทอง แล้วโรยน้ำตาลกินเป็นขนมหวานกับกาแฟ
มื้อเที่ยง ก็ฟักทองผัดกับน้ำมันแล้วใส่ปลากระป๋องกินกับข้าวสวยร้อน ๆ
มื้อเย็น คู่หูบอกว่า กรูไม่เอาฟักทองแล้วนะ มันเลี่ยน
รู้ปะว่า ที่เราืทำฟักทองกินกัน 3 มื้อนั่น ยังไม่ครึ่งลูกเลย
ถ้าทำกินให้หมดคงใช้เวลาประมาณ 10 มื้อ ก็ 3 วันถึงจะหมด
แล้วเฮียบอกว่า กรูไม่แบกฟักทองนี่เดินไปด้วยนะ
ฉันก็เสียดาย เดินแบกฟักทองที่เหลือออกเดินทาง
พอเจอชาวบ้านแถวนั้นเป็นลุงกะป้ากะลังแบกฟืนอยู่
เราก็เลยเอาฟักทองที่เหลือให้เขาไป
สบายเรา คือไม่เหนื่อยแบกต่อ และไม่ต้องรับผิดชอบมันอีกต่อไป
No comments:
Post a Comment