Pages

Sunday, May 30, 2010

27 : ) freeform in pai now

เมืองปาย เมืองเล็ก ๆ ที่นับวันก็ยิ่งเล็กลง เอ…หรือว่าไม่ใช่ ฉันชักไม่แน่ใจ ฉันว่าน่าจะใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เพราะเมืองมันเร่ิมขยายออกไป แต่ก่อนเดินในเมือง ให้ 1 ชั่วโมงก็เดินครบทุกซอย ดูครบทุกร้าน บางทีต้องเดินมาซ้ำร้านเดิมเพราะร้านมันมีแค่นี้ กินอยู่นั่นแหละ ร้านนี้กินมา 3 มื้อแล้ว โปสการ์ดก็ซื้อมันแต่ร้านนี้ ก็มันมีร้านอยู่แค่นี้ แต่มาตอนนี้อาจต้องใช้วเวลาหลายวันหน่อย เพราะในเมืองตอนนี้ เต็มไปด้วยร้านที่น่าสนใจมากกว่าแต่ก่อนมาก เวลาแค่ 3 มื้อ หรือ 1 คืนอาจไม่พอ ถ้าจะเดินสำรวจกันก่อนแล้วค่อยซื้อ อย่างนั้นน่าจะเที่ยวปายอย่างน้อย 2 คืน ยิ่งมาตอนหน้าหนาว จะเลือกเสื้อซักตัว มีให้เลือกประมาณแผงเว้นแผง บางทีมันก็ขายติดๆ กันไปเลย เห็น ๆ กันไปเลย ว่า ร้านไหนขายได้ ร้านไหนไม่ได้ขาย

เห็นเป็นเมืองเล็ก ๆ อย่างปาย แต่ก็มีเสน่ห์ยังกะรุ่นใหญ่ ไม่ยอมแก่ตายง่าย ๆ เพราะยังมีนักคิด นักเขียน นักดนตรี ศิลปิน หรืออิสระชนที่ต้องการค้นหาบางอย่างจากการเดินทาง เพื่อพบปะพูดคุยกับเพื่อนเดินทางร่วมโลก มันต้องยังมีคนที่ชอบเดินทางทั่วโลกอยู่อีกแหละ ความรู้สึกที่อยากท่องโลก ไม่ต้องทำงาน ได้ใช้ชีวิตที่ กิน ดื่ม เที่ยว แบบไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องการทำมาหากิน เจอหนุ่ม จีบหนุ่ม เจอสาว แหล่สาว เจอนักคิด เจออาร์ติสจิตแตก เจอแดนซ์เซ่อร์ท่าแปลก ๆ เจอคนตลก ๆ มันดี ไอ้ความรู้สึกที่อยากเดินทางมันเป็นความรู้สึกที่พิเศษ มีพลัง มีมนต์ขลัง ดูน่าอิจฉา ดูตื่นเต้น ดูน่าจะเอามาเป็นพอร์ทเขียนบทหนังให้หนุ่มสาวคู่หนึ่งที่อยากหาประสบการณ์ ชีวิต อยากรู้ว่า ชีวิตคืออะไร อยากหาคำตอบว่า รักคืออะไรด้วย คิดถึงเรื่อง before sunrise ล่ะสิ อืม…

ถามว่าฉันเคยรู้สึกแบบนี้ไม๊… เคยสิ เมื่อ 15 ปีก่อน ฉันฝันว่า ฉันจะต้องเดินทางเป็นเดือน ๆ ให้ได้ ฉันอยากเดินทางไปทั่วประเทศไทย อ้อทั่วโลก มันไม่ไหว ไม่มีเงิน และก็ทำพาสปอร์ตยังไม่เป็นเลย เอาทั่วเมืองไทยให้ได้ก่อนเถอะ อยากเดินทางไปทีละจังหวัด ฝึกถ่ายรูป วาดรูป เขียนประสบการณ์ที่ผ่านชีวิตของฉันไปทุก ๆ วัน จดความคิดเห็นทุก ๆ ความเห็นที่น่าสนใจ จดคำพูดของนักเดินทาง จดสิ่งที่ได้เห็น ได้ฟังจากชาวบ้านที่เราไปเยือน ค่ำไหนนอนนั่น ขอเขากางเต๊นท์ ขอแค่เข้าห้องน้ำหน่อย ถ้าเหนื่อยมากก็ขอนอนบ้านโน้นที บ้านนี้ที เมื่อ 15 ปีที่แล้ว เรายังรู้สึกว่า ชาวบ้านจะอบอุ่นและมีน้ำใจมาก ๆ แต่ตอนนี้ชักไม่แน่ใจเหมือนกัน

ทำเป็นพูดไปอย่างนั้น แต่ภาพในหัวจริง ๆ คือ เห็นตัวเองนอนอยู่ริมทะเล นั่งวาดรูป นอนอ่านหนังสือ เขียนบทความ เขียนบทหนัง เขียนไดอะรี่ หิวก็เข้าไปสั่งอาหาร ถ้าเงินหมดก็จะขอเขาล้างจาน เป็นเด็กเสริฟ แอบหวังเล็ก ว่า จะมีคนมาสนใจ มาจีบเราบ้าง พูดคุย แลกเปลี่ยนเรื่องการใช้ชีวิต คุยเรื่องความฝันกันทั้งคืน ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร พร้อมกับกองขวดเบียร์เป็นโหล ๆ อยู่ข้างหน้า แต่หน้ากว่านั้นคือมีคลื่นทะเลซัดเข้าหาฝั่งตลอดเวลา ลมเย็น ๆ พัดเอื่อย ๆ ไม่เอายุง และแมลงใด ๆ เข้ามาเกี่ยว ขอร้อง ขอชิว ๆ อย่ากวนสิ นี่แค่ในฝันน่ะ

ที่เขียนมาทั้งหมดนี่ เพียงแค่อยากจะรายงานว่า เมืองปายเมืองเล็กแห่งนี้ ถึงแม้จะมีคนห่วงใยมากมายว่า มันเน่าแล้ว มันเปลี่ยนไปแล้ว แต่ก็มีนักเขียน นักคอลัมนิสต์ที่มีชื่อ มาเปิดร้านหนังสือชื่อฟรีฟอร์ม เป็นเจ้าของสำนักพิมพ์ free from เอง อ่านเรื่องราวของเธอได้ ใน http://prypansang.blogspot.com/ เธอ ชื่อ ปรายพันแสง ค่ะ เขียนประจำอยู่ มติชนรายสับดาห์ เธอเป็นนักกิจกรรม คิดว่าในปีนี้ เธอคงจะมีกิจกรรมดี ๆ มากมายที่คิดจะทำในปาย น่าจะทำให้เมืองปายมีสีสัน เพิ่มเรื่องของศิลปทางวรรณกรรมให้ดูคึกคักขึ้น ติดตามงานของเธอได้ที่เวปไซด์ของเธอ

ในปีนี้ เธอได้ออกหนังสือ โปสการ์ด ชา กาแฟ ปาย บันทึกมุมคิดคนที่ใช้ชีวิตในเมืองปายนานปีหลายคน ต้องขอขอบคุณที่พี่ปรายให้เกียริตคนอย่างเราได้พูดคุยลงในเล่มนี้ด้วย แล้วจะมารายงานเนื้อหาอีกทีในบล็อคหน้าเร็ว ๆ นี้

เป็นโชคดีของคนปายที่เป็นนักอ่าน มีโอกาสหาหนังสือดี ๆ มาให้ซื้อหาอ่านถึงที่ไม่ต้องถ่อไปถึงเชียงใหม่นู่น ยังไงเมืองปายของเราก็ยังน่าสนใจอยู่ดี ถึงแม้จะมีคนชอบให้ข่าวโจมตีมันอยู่เรื่อย และฉันก็ยังคงรักเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ตลอดไป

Blogged with the Flock Browser

Wednesday, May 19, 2010

26 : ) มีเรื่องมาประกาศให้แซ่บ ร้านมิตรไทยย้ายร้านชั่วคราว

ช่วงเดือน เมษายน พฤษภาคม มิถุนายน ร้านมิตรไทยขอย้ายร้านชั่วคราวเพื่อปรับปรุงร้านใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม

เพื่อว่า ป้อ แม่ ปี้น้อง จะได้ไม่ต้องเบียดเสียดกัน หายใจรดต้นคอกัน
เพื่อ สิทธิ เสรีภาพ และประชาธิปไตยที่แท้จริง ในการเลือกดูสินค้า
เพื่อ ไม่ถูกกีดกันทางการรับสื่อ ไม่ถูก ปิด หู ปิด ตา รับสื่อข้างเดียว

ย้ายไปไหน
มิตรไทยไปไหนไม่ไกลหรอกค่ะ
จากร้านเดิม เดินหน้ามาทางสี่แยกไฟแดงน้องเบียร์ แล้วเลี้ยวซ้าย เดินผ่านวัดหลวงก็จะเจอตึกสีขาว ก็จะเจอร้านมิตรไทย ทั้งหมดทั้งมวลก็ไม่เกิน 300 เมตร น่าจะประมาณ 500 ก้าว เดินกำลังสบาย ๆ หอมปากหอมคอค่ะ
รูปโฉมร้านที่เราจะขออาศัยอยู่ชั่วคราว เป็นที่หลบฝน หลบแดด เก็บของ เก็บเนื้อ เก็บตัว เงียบ ๆ

แวะมาเยี่ยมเราได้ค่ะ :)
เมื่อเราปรับปรุงร้านเดิมเสร็จแล้วก็จะย้ายกลับไปที่เดิมค่ะ
ไม่ต้องประท้วงนะคะ เราจะกลับไปที่เดิมแน่ ๆ ภายใน 3 เดือน ไม่ใช่ 9 เดือนนะค้า

Blogged with the Flock Browser

25 : ) Old mitthai paper model

ด้วยความซุกซนของนิ้วเฮีย คลิกไปเจอสิ่งที่เป็น อแมซซิ่งร้านมิตรไทย ที่เราไม่คิดว่าอะไรมันจะน่ารักขนาดนี้

  • ร้านมิตรไทยชื่อดัง โต๊ะเขียนโปสการ์ดตู้ไปรษณีย์สีแดงและหลักกิโลปาย

  • มาดูโปสการ์ดใบจิ๋วชัดๆ และประตูที่ออกมีเทคเจอร์เล็กๆ

  • ตู้ไปรษณีย์สีแดง ออกแบบมาแล้วชอบมาก

  • ตู้ไปรษณีย์ไม้ตั้งใจทำให้ดูเก่าๆหน่อย

  • ป้ายต่างๆ

  • ตู้ไปรษณีย์สีแดง โต๊ะ และหลักกิโล ใหญ่กว่าเหรียญ 1 บาท นิดหน่อย

  • โมเดลลูกค้า ใส่กล่องพร้อมส่งครับ

  • ต้นแบบเล็กน้อยเผื่อใครยังไม่ได้ไปเยือนครับ

เป็นผลงานของน้อง nonnoy เราก็ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่นับถือฝีมือ และหัวใจที่เต็ม 100 ออกแบบและตัดกระดาษให้เนี๊ยบมาก ฝีมือระดับนี้ อนาคตไกล ไม่ค่อยมีใครทำเป็น ถ้า nonnoy มาเที่ยวปาย มาคุยกันหน่อยนะ อยากรู้จักมั่ก มั่ก
ตอนนี้เราย้ายร้านแล้ว โมเดลนี้ก็จะเป็นร้านมิตรไทยเก่า ที่ถูกรื้อไปแล้ว กลายเป็นของเก่า ของโบราณไปแล้ว
เรากำลังปลูกสร้างร้านใหม่ในที่เดิม มันต้องดีกว่าเดิม พบโฉมใหม่ของร้านมิตรไทย เร็ว ๆ นี้ coming soon
Blogged with the Flock Browser