Pages

Friday, April 20, 2007

เดิน 7 วัน ไ้ด้ 20 กว่าโล

ปีที่ 2 ปี 2540 เราเปิดร้านมิตรไทย เป็นไปอย่างที่คิดไว้ตั้งแต่ก่อนมาปาย ว่าเราจะเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ ขายนักท่องเที่ยว เปิดได้ประมาณอาทิตย์นึง เริ่มขายไม่ค่อยได้ เลยรู้สึกว่าเราต้องขายอาหารด้วย
พอขายอาหาร ก็เลยมีคนมากินกันทุกวัน ปากต่อปาก ส่วนใหญ่เป็นฝรั่งพวกเดินทางนาน ๆ มีอาชีพเป็นศิลปิน เล่นดนตรีบ้าง วาดรูปบ้าง สถาปนิกบ้าง คอมพิวเตอร์ กราฟฟิคดีไซด์ ผู้กำกับ คนทำหนัง หลาย ๆ อาชีพ มารวมตัวกัน พูดคุย กินดื่มกันที่ร้าน
แต่ที่ปายในปีนั้นมีหน้าโลวซีซั่นชัดเจน นับคนมาเที่ยวได้เลย ประมาณเดือนมีนาคม 2541 อากาศกำลังดี ไม่หนาวมาก และไม่ร้อนมาก แต่จะแล้งหน่อย ๆ ดีตรงที่ฝนไม่ตกแน่ ๆ
เราก็เลยมีแผนไปเที่ยว ตอนนั้นเรามีจักรยานคนละคัน
ก็เลยคิดว่า เราจะโบกรถ หรือไม่ก็นั่งรถโดยสารประจำทางไปที่ขุนยวม
และจะตั้งใจเดินจากขุนยวมไปแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ แบบไม่รีบ เหนื่อยก็หยุด มีเวลาเดินทางทั้งสิ้น 1 เดือน
เตรียมอาหารแห้ง มาม่า ปลากระป๋องและน้ำ ที่สามารถอยู่ได้ 7 วัน คือถ้าหมดก็แวะซื้อตุนไปเรื่อย ๆ
แค่นี้ก็หนักกระเป๋ามากเลย มีทั้งเตาแก๊สพกเล็ก เอาไว้ต้มน้ำชงกาแฟตอนหยุดพักเดิน
ค่ำไหนนอนนั่น กางเต๊นท์บ้าง นอนตามตูบนาของชาวบ้านบ้าง ชอบตรงไหนก็พักนาน ๆ
อาบน้ำตามลำห้วย เราเดินตามลำห้วย เจอชาวบ้านใจดีชวนไปนอนบ้านด้วย แต่เราอยากนอนเต๊นท์
พอกางเต้นท์หรือมีที่พักแล้ว เราก็หามุมบันทึก วาดรูป ทำกับข้าวกินกัน
ไม่น่าเชื่อเลยว่าเราจะลุยน่าดู ตอนนั้นไม่กลัวอะไรเลย รู้สึกอยากทำ ท้าทาย สนุก และได้เดินกับคู่หู 2 คน มันก็โอแล้ว
ทำได้อยู่ 7 วันในคืนนั้น เราเข้านอนแล้วในเต็นท์ ประมาณ 3 ทุ่ม ก็มีกลุ่มชาวบ้านมากัน 3 คน ส่องไปฉายมาที่เต็นท์ เรียกเราตื่น บอกให้เราไปนอนที่บ้านพ่อหลวง เราบอกชาวบ้านว่าไม่ต้องห่วง เราจะเดินทางต่อวันพรุ่งนี้ไปหมู่บ้านข้างหน้า เขาก็เลยบอกว่า ทางข้างหน้าไม่ปลอดภัย เพิ่งมีโจรพม่าปล้นรถกะบะ เขาบอกว่าถ้าเดินทางมีแต่ผู้ชายเขาจะไม่ห่วง แต่เราไม่อยากย้ายที่พัก เราก็เลยบอกว่า ไม่เป็นไรค่ะ เราจะนอนแค่คืนเดียว
เขาบอก ว่าพรุ่งนเช้าี้ให้ไปหาพ่อหลวงด้วย เราก็ตอบรับไป
วันรุ่งขึ้นเราโบกรถกลับเข้าตัวเมืองขุนยวม ตีรถจากขุนยวมไปเชียงใหม่ จากเชียงใหม่ไปกรุงเทพจากรุงเทพไปสุราษฎ์ธานี ขึ้นเรือไปเกาะเต่าในคืนนั้น ใช้เวลา 2 คืน เราก็ถึงเกาะเต่า
ในขณะที่เราเดิน 7 วัน ได้แค่ 20 กว่ากิโลเิอง
แต่ก็สนุกมาก
พรุ่งนี้จะมาเล่าต่อนะ
เดินได้อยู่ 7 วันเองเสียดายนะ ทำตอนนี้คงไม่ไหวแล้ว แต่ถ้าฮึดก็ไม่้แน่

No comments: